หน่วยเอกซเรย์กุมาร อาคาร สก. ชั้น 4
หน่วยเอกซเรย์กุมาร สาขารังสีวิทยาวินิจฉัยได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2509 โดยตั้งอยู่ที่อาคารจิรกิติ ชั้นล่าง เพื่อการตรวจวินิจฉัยโรคทางด้านเด็กโดยเฉพาะ โดยในระยะเริ่มแรกการตรวจวินิจฉัยจะเน้นไปทางด้านการตรวจ เอกซเรย์ทั่วไป (ยี่ห้อ Philips รุ่น ED 125) และการตรวจทางด้าน Fluoroscopy (ยี่ห้อ Siemens) ทั้งนี้ หน่วยเอกซเรย์ กุมารได้มีบทบาทสำคัญในการตรวจเด็กฝาแฝดทิวาราตรี (ฝาแฝดปูเป้) ซึ่งเป็นฝาแฝดที่มีลำตัวติดกันโดยการตรวจ เอกซเรย์หลอดเลือดเพื่อใช้ช่วยในการวางแผนการผ่าตัดเด็กฝาแฝดคู่นี้ได้โดย ปลอดภัย ต่อมาในปี พ.ศ. 2538 หน่วย เอกซเรย์กุมารได้ย้ายจากอาคารจิรกิติมายังอาคาร สก. ชั้น 4 นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงเครื่องมือการถ่ายภาพ เอกซเรย์ทั่วไปเป็นยี่ห้อ Siemens รุ่น Multix และเครื่อง Fluoroscopy เป็นยี่ห้อ Siemens รุ่น Sirekop 5 – 45 แล้วได้มีการนำการตรวจทางด้านอัลตราซาวนด์มาใช้ในการวินิจฉัย รวมถึงการใช้ Color Doppler Imaging มาใช้ในการตรวจหลอดเลือด (ยี่ห้อ Acuson รุ่น Sequioa, Philips รุ่น iU 22, GE รุ่น Logiq E9)
ในปัจจุบันหน่วยเอกซเรย์กุมารได้มีการขยายและพัฒนางานอย่างต่อเนื่องโดย ครอบคลุมถึงการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์และเครื่องตรวจคลื่น สะท้อนในสนามแม่เหล็ก ส่วนการตรวจทางด้าน Fluoroscopy ได้พัฒนา มาเป็นระบบ Digital Fluoroscopy (Toshiba รุ่น Kalare) และมีระบบ Pulse Fluoroscopy เพื่อใช้ในการลด ปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยเด็กจะได้รับ และในปี พ.ศ. 2556 ได้ทดแทนเครื่องเอกซเรย์ทั่วไปจากระบบแอนะล็อก (Siemens รุ่น Multix) มาเป็นระบบดิจิทัล (Shimadzu รุ่น Radspeed DR)